ส้มสายน้ำผึ้ง สดตรงจากสวน อ. ฝาง จ.เชียงใหม่

ทางด้านการทำอาหาร

ส้มสายน้ำผึ้ง เหมาะแก่การนำไปรับประทานเดี่ยวๆ ทำสลัด หรือใช้ทำน้ำส้มคั้น  เนื่องจากส้มชนิดนี้มีรสชาติหวานกลมกล่อม อมเปรี๊ยวนิดๆ มีกลิ่นเฉพาะ ซึ่งส้มสายน้ำผึ้งลูกเล็กที่ค่อนข้างแก่หน่อยไปทำน้ำส้ม น้ำส้มจะมีรสชาติความหวาน ความเปรี๊ยวเฉพาะของส้มสายน้ำผึ้งออกมาชัดเจนมากขึ้น หรือถ้านำส้มสายน้ำผึ้งไปทำสลัด ตัวสลัดก็จะมีความหลากหลายทางด้านรสชาติมากขึ้นอย่างชัดเจน

ทางด้านงานเลี้ยง

ส้มสายน้ำผึ้ง หนึ่งในส้มยอดนิยมของคนไทย โดดเด่นในด้านกลิ่นและรสชาติ ถูกปากคนไทยส่วนมาก จึงเป็นส้มที่ถูกนำไปเป็นผลไม้ประจำงานเลี้ยง งานฉลองต่างๆ เพราะเหมาะกับการทานหลังรับประทานอาหาร ตัดความคาว

ทางด้านการไหว้พระไหว้เจ้า ของฝาก

เมื่อพูดถึงส้มแล้วหล่ะก็ เราคงหนีไม่พ้นการเห็นผู้คนนำส้มไปไหว้พระ ไหว้เจ้า หรือมอบให้คนที่รักในโอกาสต่างๆ เนื่องจาก ส้ม สำหรับคนจีนนั้นเรียกว่า ไตกิ๊ก ซึ่งแปลว่า เฮงๆ รวยๆ การนำส้มไปไหว้เจ้าก็เสมือนการขอให้เรานั้นมั่งค่ำ ร่ำรวย ประสบกับการที่มีเงินไหลมาเทมา หรือการนำไปให้กับคนที่เรารักก็เปรียบเสมือนการให้สิ่งดีๆ อวยพรให้โชคดี ร่ำรวยเงินทอง

1. ยำส้มสายน้ำผึ้ง
2. ไก่เคลือบส้มสายน้ำผึ้ง
3. เค้กส้มสายน้ำผึ้งขิง
4. แซลมอนอบส้มสายน้ำผึ้ง
5. น้ำสลัดส้มสายน้ำผึ้ง

• ส้มสายน้ำผึ้งเปลือกบาง ผิวเรียบเนียน
• ผิวส้ม มีสีส้มเสมอกันตลอดลูก ติดสีเขียวได้นิดหน่อย
• ผลส้มสายน้ำผึ้งที่สดจะเต่งตึง ไม่นิ่มมาก กดตามผลแล้วไม่ยุบเป็นจุดๆ
• หัวขั้วส้มเขียวอ่อน ขาว ไม่น้ำตาล-ดำ
• ก้นส้มแน่น นิ่มเล็กน้อย กดแล้วไม่ยุบมาก

• ลดความเครียด
• ช่วยบำรุงผิวให้เปร่งปรั่ง ไม่แห้งกร้าน
• ช่วยสร้างคอลลาเจน ชะลอวัย
• ช่วยสร้างอนุมูลอิสระ
• ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
• สร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับระดับน้ำตาลในเลือด
• กากไย ช่วยในการขับถ่าย
• ช่วยในการสมานแผลต่างๆ

• ส้มจะเก็บและคงความสดไว้ได้นาน ในอุณหภูมิระหว่าง 5-10 องศา
• เก็บไว้ในถุงพลาสติก และปิดปากถุงให้แน่น

• 1 อาทิตย์ = ดีเยี่ยม ยังคงหวาน อมเปรี๊ยว อร่อย คุณภาพดี (เพื่อคงความอร่อยควรเก็บไว้ในตู้เย็น)
• 2 อาทิตย์ = ดี แต่ส้มเริ่มคายน้ำ เปลือกเริ่มติดผิว แกะยากขึ้นกว่าเดิม
• 3-4 อาทิตย์ = พอใช้ ยังรับประทานได้ แต่รสชาติ กลิ่นกับปริมาณน้ำจะเปลี่ยนไปมาก